วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555

โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์

โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือเรียกย่อว่า โอทอป (OTOP) เป็นโครงการกระตุ้นธุรกิจประกอบการท้องถิ่น ซึ่งได้รับการออกแบบโดยทักษิณ ชินวัตร สมัยที่ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีระหว่าง พ.ศ. 2544-2549 โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายจะสนับสนุนผลิตภัณฑ์ลักษณะเฉพาะที่ผลิตและจำหน่าย ในท้องถิ่นแต่ละตำบล โดยได้รับแรงบันดาลใจมากจากโครงการหนึ่งหมู่บ้านหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OVOP) ที่ประสบความสำเร็จของญี่ปุ่น โครงการโอทอปกระตุ้นให้ชุมชนหมู่บ้านพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและการ ตลาด เลือกผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นมาหนึ่งชิ้นจากแต่ละตำบลมาประทับตราว่า "ผลิตภัณฑ์โอทอป" และจัดหาเวทีในประเทศและระหว่างประเทศเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าเหล่านี้ ผลิตภัณฑ์โอทอปครอบคลุมผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอย่างกว้างขวาง ซึ่งรวมไปถึงงานหัตถกรรม ฝ้ายและผ้าไหม เครื่องปั้นดินเผา เครื่องประดับแฟชั่น ของใช้ในครัวเรือนและอาหาร หลังจากรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549 โครงการโอทอปได้ถูกยกเลิกไป ก่อนจะได้รับการฟื้นฟูอีกครั้งแต่เปลี่ยนชื่อใหม่







ปรัชญา

"หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์" เป็นแนวทางประการหนึ่ง ที่จะสร้างความเจริญแก่ชุมชนให้สามารถยกระดับฐานะความเป็นอยู่ของคนในชุมชน ให้ดีขึ้น โดยการผลิตหรือจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่น ให้กลายเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ มีจุดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตนเองที่ สอดคล้องกับวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่น สามารถจำหน่ายในตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ โดยมีหลักการ พื้นฐาน 3 ประการ คือ
  1. ภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่สากล (Local Yet Global)
  2. พึ่งตนเองและคิดอย่างสร้างสรรค์ (Self-Reliance-Creativity)
  3. การสร้างทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource Development)
ผลิตภัณฑ์ ไม่ได้หมายถึงตัวสินค้าเพียงอย่างเดียวแต่เป็นกระบวนการทางความคิดรวมถึง การบริการ การดูแลการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การรักษาภูมิปัญญาไทย การท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี การต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น การแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มีจุดเด่น จุดขายที่รู้จักกันแพร่หลายไปทั่วประเทศและทั่วโล

กระบวนการจัดการฝึกอบรมที่มุ่งเน้นความสามารถ

กระบวนการจัดการฝึกอบรมที่มุ่งเน้นความสามารถ (อังกฤษ: Competency-Based Skill Training, CBST) เป็นกระบวนการจัดการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานที่มุ่งเน้นความ สามารถ(Competence)ของผู้เข้ารับการฝึกเป็นสำคัญ ไม่ยึดติดกับเวลา(Time-Based)และกระบวนการฝึกทักษะต้องดำเนินไปตามขั้นตอน ที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าอย่างเข็มงวด ผู้เข้ารับการฝึกที่เรียนรู้ได้เร็วก็สามารถจบการฝึกได้ก่อนบุคคลอื่น กระบวนการวัดและประเมินผล จะใช้การวัดสมรรถนะ(Performance Criteria)แทนการออกเป็นเกรดวิชา แนวทางต่างๆกำหนดขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญภายใต้โครงการเงินกู้ ADB และโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพฝีมือแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงานกระทรวงแรงงาน ในปี ค.ศ. 1997



 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น